วันจันทร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

มหัศจรรย์เห็ดหลิงจือ กับการบำบัดผู้ป่วย ตอนที่3

ผลทดลองบำบัดผู้ป่วย ตอนที่3
                เห็ดหลิงจือใช้ร่วมกับยาแผนปัจจุบันมีผลยอดเยี่ยม หลังการผ่าตัดมะเร็งเต้านม กระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้
                สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นมะเร็ง หลังจากที่ได้ทำการผ่าตัด หรือบำบัดแล้วสภาพร่างกายเกิดอาการย่ำแย่ อีกทั้งต้องทนทุกข์ทรมานอันเกิดจากผลข้างเคียงในการบำบัดรักษา
                จากรายงานดังกล่าวของผลกล่าวการรักษาจะเห็นได้ว่า ถ้าหากใช้เห็ด “หลิงจือ”ร่วมกับการรักษาด้วยแผนปัจจุบัน จะเห็นได้ว่าผลการบำบัดรักษาเกิดประสิทธิภาพดีเยี่ยมกว่าการรักษาด้วยแผนปัจจุบันเพียงอย่างเดียว
                เพราะการบำบัดรักษาด้วยแผนปัจจุบัน ปัญหาใหญ่ที่สุดก็คือ การเกิดผลข้างเคียงจากการใช้รังสี สารเคมี
                ผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านม หลังจากได้ทำการผ่าตัดบำบัดแล้ว ได้เกิดอาการผลข้างเคียงคือ ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีดำ แต่ทว่าหลังจากที่กินเห็ดหลิงจืออีก 2 เดือนต่อมา สีหน้ากลับดีขึ้นอย่างมาก ผู้ป่วยอีกรายหลังจากทำการผ่าตัดมะเร็งเต้านม ต้องทนทุกข์ทรมานอั้นเกิดจากผลข้างเคียงของการรักษา ทำให้แขนขามือเท้ามีอาการชา และบวมหลังจากกินเห็ดหลืงจือติดต่อกัน อาการชาต่างๆก็ดีขึ้นมาก
                อีกรายหนึ่งของผู้ป่วยหลังการผ่าตัดมะเร็งในกระเพาะอาหารแล้วแย่ลง แต่เมื่อกินเห็ดหลิงจือ กินติดต่อกันจากนั้นไม่นาน การกินอาหารค่อยๆกระเตื้องขึ้น
                หลังการผ่าตัดของผู้ป่วยโรคมะเร็งลำไส้ เวลานอนจะมีอาการเหงื่อออกมากผิดปกติ ได้กินเห็ดหลิงจือร่วมด้วยติดต่อกันหลัง 10 วัน พบว่าเวลานอนไม่มีเหงื่อออกอีกและเจริญอาหารดีขึ้น
                ระงับการกระจายของเชื้อมะเร็ง ระงับอาการปวด ยืดชีวิตยาวนาน
                ในเห็ดหลิงจือมีสารโพลีแซคคาไรด์ที่เล่าสืบกันว่าสามารถรักษาโรคมะเร็ง ซึ่งเสียงร่ำลือดังกล่าวนอกจากจะลือกันในประเทศจีน ญี่ปุ่นแล้ว ก็ร่ำลือไปถึงสหัฐอเมริกา แคนาดา สก็อตแลนด์ รัสเซีย เป็นต้น ทุกวันนี้สถาบันค้นคว้า และวิจัยทางการแพทย์ของนานาประเทศ ได้พยายามใช้วิธีการทันสมัยที่สุดของการศึกษาค้นคว้า และวิจัยด้วยวิธีการต่างๆ ในการบำบัดรักษาโรคร้ายนานาชนิด และยืนยันได้ว่า เห็ดหลิงจือมีประสิทธิภาพในการรักษาโรคมะเร็งอย่างได้ผล
                ผลจากรายงานการรักษาโรคมะเร็งด้วยเห็ดหลิงจือนั้น เมื่อเร็วๆนี้ได้มีการนำออกมาเผยแพร่ในวงการแพทย์ ดังนี้
                1.สารในการรักษามะเร็งอย่างมีผลที่สุดในหลิงจือ ได้แก่ โพลีแซคคาไรด์ (Polysaccharides) กับอินทรีย์สารเจอร์เมเนียม(Germanium)
                2.ประสิทธิภาพเกิดจาก “ผลร่วมกัน” หรือ “ผลทวีคูณ” ถ้าแยกรับประทานแล้วจะไม่ได้ผล
                3.เพิ่มพลังในร่างกาย เสริมสร้างร่างกายให้มีภูมิคุ้มกันจากภูมิแพ้ และรวมทั้งควบคุมการกระจายเชื้อมะเร็ง และการเจริญเติบโตของเชื้อมะเร็ง ตลอดจนการบำบัดรักษาเชื้อมะเร็ง
                4.หลังการผ่าตัดมะเร็งในทางเดินอาหาร มะเร็งในกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก เมื่อกินเห็ดหลิงจือแล้วจะได้ผลดี
                5.สามารถระงับอาการปวดของมะเร็งขั้นสุดท้าย กระตุ้นให้อยากรับประทานอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง
                6.เห็ดหลิงจือสามารถใช้ร่วมกับวิธีการบำบัดรักษาทางแผนปัจจุบันได้ ดังเช่นการผ่าตัด การรักษาด้วยการฉายรังสี เคมีบำบัด โดยจะไม่เกิดผลข้างเคียงใดๆอีก ทั้งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษายิ่งขึ้น
                7.ผลสรุปจากรายงานการบำบัดรักษาโรคมะเร็งคือ เห็ดหลิงจือสามารถป้องกันควบคุม และบำบัดโรคมะเร็ง เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น